ซึ่งต่อมาครอบครัวก็ได้จดทะเบียนในนาม บริษัท บูลเลียนเท็กซ์ จำกัด เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2541 โดยเป็นพันธมิตรและคู่ค้ากับผู้ผลิตผ้า บริษัทต่างๆได้ไว้วางใจส่งมอบเส้นด้าย สำหรับงานจ้างทอและจัดจำหน่ายผ้า ในขณะที่บริษัทผู้จ้างวานนั้นเป็นผู้วางแผนและออกแบบเอง ทำให้บริษัทของเราสามารถขยายงานจัดจำหน่ายเส้นด้ายและผ้าได้อย่างต่อเนื่อง

ต่อมาในพ.ศ. 2545 ครอบครัวได้มีโอกาสกลับเข้ามาในเส้นทางด้านการผลิต โดยลงทุนกับเพื่อน และถือหุ้น 40% ในนามบริษัท ไซซิ่ง จำกัด ซึ่งในเวลาต่อมาครอบครัวได้ซื้อหุ้นที่เหลืออีกทั้งหมด ในนามของ บริษัท เอส.เอ็ม.เอส.ไชซิ่ง จำกัด.

ในปีพ.ศ. 2547 นับเป็นอีกก้าวอันสำคัญสำหรับครอบครัว โดยเราได้ซื้อกิจการซึ่งเป็นโรงทอเล็กๆ อยู่ในชลบุรีมีกำลังการผลิต 56 เครื่อง โดยให้ชื่อว่า บริษัท เอส.เอ็ม.เอส. การทอ จำกัด ซึ่งได้ขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีเครื่องจักรอยู่ จำนวน 245 เครื่อง ผลิตผ้าหลากหลายชนิด ตั้งแต่ผ้าธรรมดาทั่วไป ไปจนถึงสิ่งทอภายในบ้านผ้า และแม้แต่ผ้าเบาะรถยนต์ด้วย

ในปี พ.ศ. 2550 ครอบครัวได้ก่อตั้งบริษัทเพื่อทำการตลาด และจัดจำหน่ายสิ่งทอภายในบ้าน ในนามของ บริษัท โกล์ดเฮาส์ เดคคอร์ จำกัด ปัจจุบันได้การยอมรับอย่างกว้างขวางจากตลาดในประเทศ ในด้านการบริการที่ยอดเยี่ยมและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์จากความสำเร็จนี้ทำให้ครอบครัวเล็งเห็นการขยายธุรกิจต่อไปยังตลาดนอกประเทศ

จากความสำเร็จนี้ทำให้ครอบครัวเล็งเห็นการขยายธุรกิจต่อไปยังตลาดระหว่างประเทศ  จึงก่อตั้ง บริษัท คาซ่า ชลบุรี จำกัด ขึ้นในปี พ.ศ. 2556 โดยส่งออกผ้าสำหรับเคหะสิ่งทอ และได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าในหลายๆประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, ตะวันออกกลาง และเอเชีย

บริษัท บูลเลียนเท็กซ์ จำกัด และบริษัทในเครือหวังว่าจะสามารถเติบโตและขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งทอ ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีอุปสรรคมากมายที่ทำให้ธุรกิจสิ่งทอในประเทศไทยดูเหมือนจะไม่สดใสมากนัก แต่ครอบครัวรวมไปถึงพนักงานก็ยังมีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนลงแรง เพื่อจะส่งมอบบริการและสินค้าอย่างมืออาชีพ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งมอบธุรกิจนี้ต่อไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน